Bitkub

Bitkub: แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิตอลชั้นนำของประเทศไทย

Bitkub ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทย ได้สร้างชื่อให้กับตัวเองในฐานะผู้เล่นที่โดดเด่นในตลาดสกุลเงินดิจิทัล โดยรูปแบบธุรกิจของบริษัทจะเน้นไปที่การมอบแพลตฟอร์มให้ผู้ใช้แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลพร้อมสร้างรายได้ผ่านช่องทางต่างๆ

แหล่งรายได้

แหล่งรายได้หลักของ Bitkub มาจากค่าธรรมเนียมและบริการที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ในปี 2022 บริษัทมีรายได้รวม 2.85 พันล้านบาท โดย 2.82 พันล้านบาทมาจากค่าธรรมเนียมและบริการ ตัวเลขนี้แสดงถึงการลดลง 48% เมื่อเทียบเป็นรายปีเมื่อเทียบกับปี 2021 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงธรรมชาติที่ผันผวนของตลาดสกุลเงินดิจิทัล

โครงสร้างค่าธรรมเนียม

โครงสร้างค่าธรรมเนียมของบริษัทประกอบด้วยองค์ประกอบหลักสามประการ:

• ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย
• ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม
• ค่าธรรมเนียมการลงรายการ

ค่าธรรมเนียมเหล่านี้คิดเป็นส่วนใหญ่ของรายได้ของ Bitkub จากค่าธรรมเนียมและบริการ นอกจากนี้ บริษัทยังสร้างรายได้จากดอกเบี้ยและกำไรหรือขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ดิจิทัลอีกด้วย

Bitkub ยังมีฟีเจอร์พิเศษที่เรียกว่า “เครดิตค่าธรรมเนียม” ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยน KUB (Bitkub Coin) เป็นเครดิตค่าธรรมเนียมบนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนของ Bitkub ซึ่งสามารถใช้ชำระค่าธรรมเนียมการซื้อขายได้ ระบบนี้สนับสนุนการใช้ KUB ภายในระบบนิเวศของ Bitkub

การจัดหาสภาพคล่อง

เพื่อให้การซื้อขายดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีเสถียรภาพของตลาด Bitkub ได้นำกลยุทธ์ต่างๆ มาใช้:

• ยูทิลิตี้ของ KUB: KUB ทำหน้าที่เป็นโทเค็นดั้งเดิมของ Bitkub Chain ซึ่งทำหน้าที่เป็นค่าธรรมเนียมก๊าซสำหรับการทำธุรกรรมและการตรวจสอบบนเครือข่าย
• กองทุน Liquidity Provision Fund: กองทุนนี้บริหารจัดการโดย Bitkub Blockchain Technology Co., Ltd (BBT) ซึ่งสนับสนุนสภาพคล่องของ KUB ในวันซื้อขายวันแรกบนกระดานแลกเปลี่ยน Bitkub
• การเผยแพร่ต่อสาธารณะครั้งแรก: Bitkub จัดหาสภาพคล่องเบื้องต้นให้กับ KUB ผ่านแหล่งหลักสองแหล่ง:
  • กองทุน Airdrop ขั้นต้นสำหรับผู้ใช้ Bitkub
  • กองทุนสำรองสภาพคล่องซึ่งวางคำสั่งขายจำนวนจำกัดที่ราคาคงที่ 0.96 USD (30 บาท) ต่อ 1 KUB

โดยการใช้กลยุทธ์เหล่านี้ Bitkub มีเป้าหมายที่จะสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งซึ่งเชื่อมโยงการเงินแบบดั้งเดิมกับโลกของสินทรัพย์ดิจิทัล อำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลรูปแบบใหม่

ภูมิทัศน์ด้านกฎระเบียบและความพยายามในการปฏิบัติตามกฎระเบียบของ Bitkub

กฎระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

Bitkub ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ดำเนินงานภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) การกำกับดูแลดังกล่าวมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางการดำเนินงานของ Bitkub และรับรองว่าบริษัทปฏิบัติตามมาตรฐานระดับประเทศ ความมุ่งมั่นของบริษัทในการยึดมั่นตามกฎระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความไว้วางใจในหมู่ผู้ใช้และพิสูจน์ให้บริษัทเป็นผู้เล่นที่ถูกกฎหมายในพื้นที่สินทรัพย์ดิจิทัล

ขั้นตอน KYC และ AML

Bitkub ได้นำขั้นตอน Know Your Customer (KYC) และ Anti-Money Laundering (AML) ที่เข้มงวดมาใช้เพื่อรักษาความสมบูรณ์ของแพลตฟอร์ม มาตรการเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตรวจสอบตัวตนของผู้ใช้ ป้องกันกิจกรรมฉ้อโกง และรับรองการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ ด้วยการให้ความสำคัญกับขั้นตอนเหล่านี้ Bitkub ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ปลอดภัยและโปร่งใสสำหรับผู้ใช้

ความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแล

Bitkub ได้แสดงให้เห็นถึงแนวทางเชิงรุกในการทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลและพันธมิตรในอุตสาหกรรม ล่าสุดบริษัทได้ร่วมมือกับ Coin.ph, Indodax และ Coinhako เพื่อก่อตั้ง Digital Asset Exchange Alliance ซึ่งเป็นองค์กรที่ได้รับใบอนุญาตซึ่งอุทิศตนเพื่อสนับสนุนระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พันธมิตรนี้มุ่งหวังที่จะเสริมสร้างสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบโดยการแบ่งปันความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับกฎระเบียบของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศต่างๆ

นอกจากนี้ Bitkub ยังได้ร่วมมือกับ Tether และ Bitkub Academy เพื่อส่งเสริมการศึกษาเกี่ยวกับ stablecoin ในประเทศไทย ความคิดริเริ่มนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการศึกษาของชุมชนในตลาด stablecoin ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายด้านกฎระเบียบในการส่งเสริมความเข้าใจและการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมีความรับผิดชอบ

ด้วยความพยายามร่วมกันเหล่านี้ Bitkub ได้วางตำแหน่งตัวเองในฐานะผู้เล่นหลักในการกำหนดภูมิทัศน์ด้านกฎระเบียบของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยรวม โดยการรักษาความเป็นผู้นำและยึดมั่นในหลักปฏิบัติทางกฎหมาย Bitkub ยังคงมีส่วนสนับสนุนการพัฒนาสภาพแวดล้อมการกำกับดูแลที่แข็งแกร่งและยุติธรรมซึ่งรองรับการเติบโตทางธุรกิจไปพร้อมกับการให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของผู้ใช้งาน

ระบบนิเวศผลิตภัณฑ์ของ Bitkub ที่นอกเหนือจากบริการแลกเปลี่ยน

Bitkub ได้ขยายขอบเขตการให้บริการให้กว้างไกลเกินกว่าบริการแลกเปลี่ยนแบบดั้งเดิม โดยสร้างระบบนิเวศที่หลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ใช้บล็อคเชนและทรัพยากรด้านการศึกษา

Bitkub Chain

Bitkub Chain เป็นเครือข่ายบล็อคเชนที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานบล็อคเชนระดับประเทศและระดับภูมิภาคในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานบล็อคเชนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ไม่แพงและเวลาในการยืนยันที่รวดเร็ว เครือข่ายนี้สนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ (dApps) สินทรัพย์ดิจิทัล โทเค็นยูทิลิตี้ และโทเค็นที่ไม่สามารถทดแทนได้ (NFTs) นอกจากนี้ยังอำนวยความสะดวกให้กับผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบกระจายอำนาจต่างๆ รวมถึงการกู้ยืม การกู้ยืม และการทำฟาร์มผลตอบแทน

ตลาด NFT ของ Bitkub

Bitkub ได้ก้าวเข้าสู่โลกของของสะสมดิจิทัลด้วยตลาด NFT ผู้ใช้สามารถค้นพบสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ซ้ำใครและสำรวจ NFT ที่หลากหลาย ตลาดนี้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อคเชนเพื่อรับรองความถูกต้องและความเป็นเจ้าของของรายการดิจิทัลเหล่านี้ ข้อเสนอ NFT ของ Bitkub ขยายไปสู่แอปพลิเคชันในโลกแห่งความเป็นจริง เช่น แพ็คเกจที่พักในรีสอร์ทต่างๆ

ผลกระทบของ Bitkub ต่อระบบนิเวศทางการเงินของประเทศไทย

Bitkub ซึ่งเป็นบริษัทแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทย มีอิทธิพลอย่างมากต่อภูมิทัศน์ทางการเงินของประเทศ แนวทางที่สร้างสรรค์ในการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อคเชนได้นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ขยายออกไปไกลเกินกว่าตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ผลกระทบของบริษัทสามารถเห็นได้ในหลายแง่มุมของเศรษฐกิจของประเทศไทย ตั้งแต่การดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศไปจนถึงการส่งเสริมนวัตกรรมในภาคเทคโนโลยี

ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

Bitkub มีบทบาทสำคัญในการวางตำแหน่งประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนต่างประเทศในพื้นที่สินทรัพย์ดิจิทัล ความสำเร็จของบริษัทได้ดึงดูดความสนใจไปที่ศักยภาพของประเทศในตลาดสกุลเงินดิจิทัล ทำให้เป็นจุดศูนย์กลางสำหรับการลงทุนจากต่างประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ส่งเสริมให้เกิดการดึงดูดนี้คือกรอบการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศไทย ในฐานะผู้ริเริ่มกฎระเบียบสกุลเงินดิจิทัลในเอเชีย ประเทศไทยได้สร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับนักลงทุน ความชัดเจนของกฎระเบียบนี้ ร่วมกับความโดดเด่นของ Bitkub ในฐานะการแลกเปลี่ยนที่ได้รับการควบคุม ทำให้ผู้ลงทุนมีความมั่นใจในตลาดของประเทศไทยมากขึ้น

แผนการขยายตัวของ Bitkub ยังสนับสนุนแนวโน้มนี้อีกด้วย บริษัทตั้งเป้าที่จะเป็นผู้เล่นระดับภูมิภาค โดยมีแผนที่จะใช้รายได้จากการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรกเพื่อถือครองสิทธิ์ในตลาดที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ เช่น กัมพูชา เวียดนาม และลาว กลยุทธ์การขยายตัวนี้ไม่เพียงแต่ขยายขอบเขตของ Bitkub เท่านั้น แต่ยังทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในภูมิภาคอีกด้วย

นอกจากนี้ ความร่วมมือระหว่าง Bitkub กับสำนักงานเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ความร่วมมือครั้งนี้คาดว่าจะช่วยยกระดับการค้าและการลงทุนในภูมิภาค เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับนานาชาติของประเทศไทย และดึงดูดผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งชาวไทยและต่างชาติ

การสร้างงานในภาคเทคโนโลยี

การเติบโตของ Bitkub ส่งผลดีต่อการสร้างงานในภาคเทคโนโลยีของประเทศไทย เนื่องจากบริษัทเติบโตและขยายการดำเนินงาน จึงสร้างโอกาสมากมายให้กับมืออาชีพด้านเทคโนโลยีในด้านต่างๆ เช่น การพัฒนาบล็อคเชน ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล

โครงการริเริ่มของ Bitkub เช่น Bitkub Academy ยังช่วยพัฒนาทักษะในภาคเทคโนโลยีอีกด้วย โดยการให้การศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อคเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล Bitkub กำลังช่วยสร้างกำลังคนที่พร้อมตอบสนองความต้องการของเศรษฐกิจดิจิทัล

การขยายตัวของบริษัทเข้าสู่ตลาดใหม่และการมุ่งเน้นด้านนวัตกรรมมีแนวโน้มที่จะสร้างโอกาสในการจ้างงานเพิ่มมากขึ้นในอนาคต เนื่องจาก Bitkub ยังคงเติบโตและกระจายข้อเสนอต่างๆ อย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะช่วยกระตุ้นความต้องการผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะในสาขาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีต่างๆ

การส่งเสริมนวัตกรรม

Bitkub เป็นผู้นำในการส่งเสริมนวัตกรรมในระบบนิเวศทางการเงินของประเทศไทย การที่บริษัทให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีบล็อคเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลได้กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินใหม่ๆ และส่งเสริมให้บริษัทอื่นๆ ริเริ่มนวัตกรรมในพื้นที่นี้

วิธีหนึ่งที่ Bitkub ขับเคลื่อนนวัตกรรมคือผ่าน Bitkub Capital Co., Ltd ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน กองทุนนี้ลงทุนในธุรกิจบล็อคเชนและทำหน้าที่เป็นกองทุนรวมสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมอบโอกาสให้กับผู้ที่ต้องการลงทุนในทรัพย์สินดิจิทัลแต่ไม่มีเวลาหรือความเชี่ยวชาญในการดำเนินการโดยตรง

ความร่วมมือของ Bitkub กับ Mastercard และสถาบันการเงินที่ได้รับการรับรองในประเทศไทยเพื่อเปิดตัว Bitkub Prepaid Card ถือเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของแนวทางที่สร้างสรรค์ของบริษัท ความคิดริเริ่มนี้ช่วยเชื่อมช่องว่างระหว่างการเงินแบบดั้งเดิมและโลกของสินทรัพย์ดิจิทัล ทำให้ผู้บริโภคสามารถใช้สินทรัพย์ดิจิทัลของตนในการทำธุรกรรมประจำวันได้ง่ายขึ้น

ความพยายามของบริษัทในการให้ความรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อคเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านโครงการต่างๆ เช่น Bitkub Academy และสัมมนา “Digital Economy & Trends 2024” ยังช่วยสร้างวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรมอีกด้วย โดยการเพิ่มความเข้าใจและความตระหนักรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีเหล่านี้ Bitkub กำลังช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ความคิดใหม่ๆ สามารถเติบโตได้

ผลกระทบของ Bitkub ต่อระบบนิเวศทางการเงินของประเทศไทยขยายออกไปไกลเกินกว่าธุรกิจหลักของบริษัทในการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ด้วยการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ สร้างงานในภาคเทคโนโลยี และส่งเสริมนวัตกรรม บริษัทจึงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอนาคตของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย ในขณะที่ Bitkub ยังคงเติบโตและขยายตัวต่อไป อิทธิพลของบริษัทที่มีต่อภูมิทัศน์ทางการเงินของประเทศก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในพื้นที่สินทรัพย์ดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ประสบการณ์ลูกค้าและการสนับสนุนบนแพลตฟอร์ม Bitkub

ขั้นตอนการตั้งค่าบัญชี

Bitkub ได้ปรับปรุงขั้นตอนการตั้งค่าบัญชีเพื่อให้ผู้ใช้ใหม่ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น ในการสร้างบัญชี ผู้ใช้จะต้องไปที่เว็บไซต์ Bitkub อย่างเป็นทางการและคลิกที่ปุ่ม “ลงทะเบียน” จากนั้นจะต้องระบุที่อยู่อีเมลที่ถูกต้องและสร้างรหัสผ่านที่แข็งแกร่ง หลังจากยอมรับเงื่อนไขการบริการและทำแบบทดสอบความเข้าใจเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลแล้ว ผู้ใช้จะต้องผ่านขั้นตอนการยืนยันตัวตน Know Your Customer (KYC) เพื่อเปิดใช้งานการซื้อขาย

ตัวเลือกการฝากและถอนเงิน

Bitkub นำเสนอตัวเลือกการฝากและถอนเงินที่หลากหลายเพื่อรองรับฐานผู้ใช้ที่เพิ่มมากขึ้น แพลตฟอร์มได้แก้ไขปัญหาก่อนหน้านี้ที่เกี่ยวข้องกับความล่าช้าในการฝากและถอนเงินบาทและสกุลเงินดิจิทัลด้วยการดำเนินการแก้ไข ซึ่งรวมถึงการเพิ่มฟังก์ชันการสนับสนุนโดยรวมเป็นสามเท่าและเพิ่มจำนวนพนักงานฝ่ายสนับสนุนลูกค้าและฝ่ายปฏิบัติการเป็นสองเท่า

คุณภาพการบริการลูกค้า

Bitkub ได้ก้าวหน้าอย่างมากในการปรับปรุงคุณภาพการบริการลูกค้า แพลตฟอร์มมุ่งมั่นที่จะให้บริการลูกค้า 1 ล้านคนโดยรักษาช่องทางการสื่อสารที่เปิดกว้าง รวมถึงศูนย์ติดต่อลูกค้าที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของบัญชี Bitkub ได้แนะนำตัวเลือกเพิ่มเติม เช่น การสนับสนุน Yubikey และโปรโตคอล 2FA ที่ปรับปรุงแล้ว นอกจากนี้ บริษัทได้จัดตั้งกองทุนสำรองเพื่อการคุ้มครองลูกค้ามูลค่า 100 ล้านบาทเพื่อแก้ไขข้อกังวลของลูกค้า

บทสรุป

การเติบโตของ Bitkub ในฐานะผู้นำตลาดแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศไทยแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่สำคัญต่อภูมิทัศน์ของสกุลเงินดิจิทัลของประเทศ การเดินทางของแพลตฟอร์มจากสตาร์ทอัพสู่ผู้นำตลาดนั้นโดดเด่นด้วยการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ รวมถึงแนวทางที่เน้นลูกค้า ข้อเสนอสินทรัพย์ที่ขยายเพิ่มขึ้น และความร่วมมือที่สำคัญ ความมุ่งมั่นของ Bitkub ในด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการรักษาความปลอดภัยมีบทบาทสำคัญในการสร้างความไว้วางใจระหว่างผู้ใช้และหน่วยงานกำกับดูแล ทำให้ Bitkub เป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย

เมื่อมองไปข้างหน้า ระบบนิเวศที่หลากหลายของ Bitkub ซึ่งรวมถึง Bitkub Chain ตลาด NFT และโครงการด้านการศึกษา ชี้ให้เห็นถึงวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องของบริษัทที่เกินกว่าบริการแลกเปลี่ยนพื้นฐาน ความพยายามของบริษัทในการปรับปรุงประสบการณ์และการสนับสนุนลูกค้าควบคู่ไปกับจุดยืนเชิงรุกในประเด็นด้านกฎระเบียบ ชี้ให้เห็นถึงอนาคตอันสดใสของ Bitkub ในโลกของสินทรัพย์ดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในขณะที่การนำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้ยังคงเติบโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Bitkub ดูเหมือนจะอยู่ในตำแหน่งที่ดีในการมีบทบาทสำคัญในการกำหนดภูมิทัศน์ทางการเงินดิจิทัลของภูมิภาค