การจับกุม Durov, ความสามารถในการต้านทานความเสี่ยงของ TON
มูลค่าของ TON ขึ้นอยู่กับการรวมกับ Telegram เป็นอย่างมาก อนาคตของโครงการบล็อกเชนจะหลีกเลี่ยงการถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนกิจกรรมอาชญากรรมได้อย่างไรนั้น อาจขึ้นอยู่กับระดับการกระจายอำนาจของมัน
Pavel Durov ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Telegram ถูกจับกุมโดยหน่วยสืบราชการลับของฝรั่งเศสหลังจากลงจอดที่ปารีสเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากข่าวนี้เผยแพร่ออกไป โทเค็นของเครือข่าย TON ก็ตกลงทันที แต่ต่อมาได้กลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง ในขณะนี้ ดูเหมือนว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้จะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ TON ยังไม่ชัดเจนว่าการจับกุมครั้งนี้บ่งบอกถึงการโจมตีที่กว้างขึ้นต่อระบบที่กระจายอำนาจ รวมถึง TON ด้วยหรือไม่ หรือจะขยายไปยังแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย/แอปพลิเคชันการสื่อสารอื่นๆ หรือเครือข่ายบล็อกเชนอื่นๆ หรือไม่
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น: ตามรายงานของ AFP Pavel Durov ถูกจับกุมหลังจากเครื่องบินส่วนตัวของเขาลงจอดที่สนามบินปารีส และถูกกล่าวหาว่ามีความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมองค์กร การค้ายาเสพติด การฉ้อโกง การกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต และการโฆษณาชวนเชื่อของการก่อการร้าย ตามรายงานของสื่อฝรั่งเศส ข้อกล่าวหาเหล่านี้ดูเหมือนจะเกิดจากความล้มเหลวในการป้องกันไม่ให้อาชญากรใช้ประโยชน์จาก Telegram เมื่อข่าวการจับกุมถูกประกาศออกมา มูลค่าของสินทรัพย์คริปโตที่เกี่ยวข้องกับ Telegram อย่าง TON ลดลงถึง 25% ปัจจุบันมีราคาการซื้อขายที่ต่ำกว่าจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ของเดือนมิถุนายน 2024 ประมาณ 34% ในแถลงการณ์ Telegram ระบุว่า Durov ไม่มีสิ่งใดที่ต้องปิดบัง
Telegram ได้มีข้อโต้แย้งกับคณะกรรมาธิการยุโรปเกี่ยวกับว่า Telegram ใหญ่พอที่จะต้องลงทะเบียนตามกฎหมายบริการดิจิทัล (DSA) หรือไม่ Telegram ยืนยันว่าเนื่องจากผู้ใช้ที่ใช้งานต่อเดือนในยุโรปยังไม่ถึง 45 ล้านคน จึงยังไม่เข้าข่ายที่ต้องลงทะเบียนและปฏิบัติตามข้อกำหนดของ DSA แพลตฟอร์มที่เข้าข่าย “แพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่มาก” เมื่อได้รับแจ้งว่ามีเนื้อหาที่ผิดกฎหมายบนแพลตฟอร์ม พวกเขาจะต้องรับผิดชอบต่อเนื้อหานั้น ความรับผิดชอบแบบมีเงื่อนไขนี้ขัดแย้งกับการยกเว้นความรับผิดอย่างกว้างขวางที่กำหนดโดยมาตรา 230 ของกฎหมายว่าด้วยการสื่อสารของสหรัฐอเมริกา ปี 1996
เมื่อพิจารณาถึงรายงานใหม่ที่ระบุว่าหมายจับออกโดย Ofmin หน่วยข่าวกรองที่ปกป้องเยาวชนจากการถูกทำร้าย ดูเหมือนว่า Durov จะเผชิญกับข้อหาละเมิดกฎหมายของฝรั่งเศสมากกว่าการละเมิด DSA แม้ว่าฝรั่งเศสจะมีบทบาทสำคัญในสหภาพยุโรปและการสนับสนุน DSA แต่ความแตกต่างนี้อาจไม่มีความหมายในทางปฏิบัติ
ตามที่ Durov ระบุว่า Telegram มีผู้ใช้ที่ใช้งานประมาณ 950 ล้านคนต่อเดือน ทำให้เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้งานมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยพื้นฐานแล้ว Telegram เป็นแอปพลิเคชันการส่งข้อความที่มีความสามารถในการแชทกลุ่มที่แข็งแกร่ง แต่ยังถูกใช้ในกิจกรรมที่คล้ายคลึงกับโซเชียลมีเดียอีกด้วย โดยที่ช่องทางการแพร่ภาพทำหน้าที่คล้ายคลึงกับสตรีมข้อมูลของ Twitter ช่องทางเหล่านี้มักถูกใช้โดยกลุ่มติดอาวุธ รวมถึงกองทัพยูเครนและรัสเซีย
Telegram ยังถูกใช้อย่างกว้างขวางสำหรับการสื่อสารระหว่างชุมชนคริปโต ตั้งแต่แชทกลุ่มที่เน้นโครงการขนาดใหญ่ไปจนถึงการสนทนากลุ่มขนาดเล็กระหว่างมืออาชีพในอุตสาหกรรม และแม้กระทั่งการสื่อสารระหว่างโต๊ะซื้อขายนอกตลาดและคู่ค้าที่พวกเขาติดต่อกัน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ได้ยื่นฟ้อง Telegram ในเดือนตุลาคม 2019 ในขณะนั้น บริษัทได้ระดมทุน 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเปิดตัวบล็อกเชนและโทเค็น TON ซึ่งเป็นหนึ่งในการระดมทุนโทเค็นที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ไม่กี่เดือนต่อมา ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐสนับสนุน SEC โดยสั่งให้หยุดการออกโทเค็นของ Telegram ในตอนแรก Telegram ได้อุทธรณ์ต่อคำสั่งห้ามนี้ แต่ภายหลังได้ยกเลิกความพยายามนี้
หลังจากนั้น Telegram ได้หยุดการทำงานในโครงการนี้ แต่ก่อนหน้านั้น บริษัทได้เปิดเผยซอร์สโค้ดทั้งหมด รวมถึงโหนดบล็อกเชน กระเป๋าเงินคริปโต, TON Payments และองค์ประกอบการเก็บข้อมูลไฟล์ รวมถึงเอกสารทางเทคนิคเกี่ยวกับโปรโตคอลความยินยอมของ TON ในปี 2020 Telegram ตกลงกับ SEC โดยต้องจ่ายเงินคืนให้กับนักลงทุนในโทเค็น TON และชำระค่าปรับ 18.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับ SEC
TON ถูกเปิดตัวโดยนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ใช้โค้ดเปิดในเดือนพฤศจิกายน 2019 ในปัจจุบัน Telegram ได้รวมเข้ากับ The Open Network และสินทรัพย์ TON อย่างกว้างขวาง ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบล็อกเชนและทำธุรกรรมผ่าน Telegram ได้
TON เป็นสินทรัพย์เนทีฟของ The Open Network (TON) ซึ่งมีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับที่ 11 ของสินทรัพย์คริปโต มีมูลค่าตลาดเกิน 14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่ใต้ Tron และเหนือกว่า Cardano ตามข้อมูลของ CoinGecko มูลค่าตามราคาตลาดแบบเตรียมการ (FDV) ของ TON อยู่ที่ 28.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีปริมาณการซื้อขายในตลาดที่มีศูนย์กลางมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน
ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ เครือข่ายมีจำนวนกระเป๋าเงินทั้งหมด 600,000 กระเป๋า และดำเนินการธุรกรรมประมาณ 6 ล้านรายการต่อวัน
เครือข่ายที่ใช้หลักฐานการมีส่วนร่วม (PoS) นี้ได้รับการป้องกันโดยผู้ตรวจสอบประมาณ 370 รายที่มีสเตคใน 28 ประเทศมูลค่า 3.35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีอัตราผลตอบแทนต่อปี 4.2% (ข้อมูลจาก Tonscan.org)
ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ TON DeFi (ไม่นับการสเตคและการสเตคสภาพคล่อง) มีมูลค่ารวมที่ถูกล็อก (TVL) ประมาณ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
85% ของ TVL ทั้งหมดของ TON DeFi กระจุกตัวอยู่ในแอปพลิเคชันการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ (DEX) สองแอปพลิเคชัน: DeDust และ Ston.fi แอปพลิเคชันทั้งสองนี้มี TVL ส่วนใหญ่ (76.6% ของ DeDust และ 68.7% ของ Ston.fi) กระจุกตัวอยู่ในสระเงินทุน
การพลิกผันครั้งใหญ่! ช่องว่างดอกเบี้ยระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐแคบลง ทิศทางค่าเงินเยนจะแข็งค่าทะลุ 140 ภายในสิ้นปีนี้หรือไม่? แอปพลิเคชันทางการเงิน Zhihui ได้รับทราบว่าหลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมและเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยล่าสุด นักกลยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยนได้ทบทวนทิศทางของค่าเงินเยนใหม่ทั้งหมด ก่อนการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่นในวันที่…
ในยุคดิจิทัลทุกวันนี้ การยืนยันตัวตนกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ คำว่า “KYC คืออะไร” (KYC คืออะไร) มีความเกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากแพลตฟอร์มสกุลเงินดิจิทัลนำมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมาใช้ KYC…
